เมนูนำทาง
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 ยุทธวิธีของทางการรัฐบาลถูกกล่าวหาว่าใช้กฎหมายบังคับแทนการเจรจาอย่างสันติวิธี มีการใช้นิติสงคราม หมายถึง การแจ้งความดำเนินคดีที่มีอัตราโทษหนักทั้งที่ไม่เข้าองค์ประกอบ[257] ตำรวจยังใช้วิธีอายัดตัวและฝากขังแกนนำผู้ประท้วงไปทีละหมายจับ พาตัวไปยังที่ทุรกันดาร และขัดขวางการทำหน้าที่ของทนายความ[258]
ตำรวจอ้างว่าได้ปฏิบัติตามหลักสากลในการควบคุมฝูงชน ทั้งการใช้ปีนใหญ่ฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา[259][260] รวมทั้งขู่ใช้กระสุนยาง[261] (ซึ่ง อานนท์ นำภา อ้างว่ามีผู้ชุมนุมถูกยิงด้วยกระสุนยางแล้ว)[262] แต่คำแนะนำของสหประชาชาติระบุว่าปืนใหญ่ฉีดน้ำให้ใช้เฉพาะกับการประท้วงรุนแรงเท่านั้น และต้องไม่ฉีดไปยังตัวบุคคลโดยตรง[263] และการใช้กระสุนยางก็มีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่งและถูกวิจารณ์ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน[264]
มีรายงานว่าตำรวจปล่อยปละละเลยให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม กับมีข่าวลือว่าเครือข่ายนักการเมืองภาคตะวันออกเกณฑ์คนเข้ามาในกรุงเทพมหานคร[265]
เมนูนำทาง
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 ยุทธวิธีของทางการใกล้เคียง
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 (กรกฎาคม 2563)แหล่งที่มา
WikiPedia: การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 http://prachatai.com/english/node/4218 //doi.org/10.1017%2Ftrn.2018.4 //doi.org/10.1177%2F2057891119892321 //doi.org/10.1353%2Fasp.2019.0050 //doi.org/10.1353%2Fjod.2019.0056 //doi.org/10.1355%2Fcs39-1b //doi.org/10.2307%2F26798844 http://dx.doi.org/10.1017/trn.2018.4 http://dx.doi.org/10.1177/2057891119892321 http://dx.doi.org/10.1353/asp.2019.0050